เวลาเราอยากลดไขมัน หรือต้องการมีร่างกายที่ลีนๆ กล้ามชัดๆ ถ้าตาม Common sense แล้ว เรามักจะพยายามกินให้น้อยลง และออกกำลังกายเยอะขึ้น วันนี้จะมาอธิบายกันเป็นข้อๆครับ ว่าจริงๆแล้วคนเราสามารถกินได้เยอะขึ้น และลดไขมันได้ยังไง
คำถามคือ แล้วกินเยอะขึ้น ทำไมลีนขึ้น? แทนที่จะอ้วนขึ้น
ที่เรารู้ๆกันอยู่ ว่าสรรจธรรมของความอ้วนก็คือ
- กินมากกว่าที่เราใช้ = อ้วนขึ้น
- กินน้อยกว่าที่ใช้ = ผอมลง
แต่มีอีกข้อหนึ่งที่เราควรรู้ คือ “ยิ่งกินน้อย ร่างกายยิ่งใช้พลังงานน้อย” และ “ยิ่งกินมาก ร่างกายยิ่งใช้พลังงานมาก”
ดังนั้น จริงๆแล้วการที่เราจะผอมลง (ลดไขมัน) มันไม่จำเป็นที่เราต้องกินน้อยเสมอไปครับ เพราะว่ายิ่งกินน้อย ร่างกายยิ่งไม่ยอมเอาพลังงานมาใช้ กล้ามเนื้อยิ่งหดหาย สิ่งที่คนกินน้อยๆมักจะเจอ (อันนี้นักเรียนผมแทบ 90% ที่เป็นผู้หญิง มักจะผ่านจุดนี้มาก่อน)
ถ้ากินน้อย + ออกกำลังหนักเกิดอะไรขึ้น
- ช่วงแรกน้ำหนักลงเร็วมาก รู้สึกดี ผอมเร็ว
- สักพักเริ่มตัน น้ำหนักไม่ลง
- ลด Calorie อีก
- น้ำหนักลดต่อ แต่ช้ากว่าเดิม แล้วก็ตัน
- ลด Calorie อีก
- น้ำหนักลดต่อ แต่ช้ากว่าเดิม
- ทำซ้ำไปเรื่อยๆ น้ำหนักเริ่มไม่ลด ทั้งๆที่กินน้อยมาก แถม cardio เยอะ
- สมองเริ่มคิดถึงแต่เรื่องอาหาร เพราะวันๆกินไม่พอใช้
- กลายเป็นหมกมุ่นกับอาหาร วันๆคิดถึงอาหาร กินอะไรก็รู้สึกผิด
- แต่ทั้งๆที่รู้สึกผิด ก็ยังตะบะแตก
- แล้วก็กลับมาอ้วนอย่างรวดเร็ว
- ทีนี้จะลดก็ไม่ได้แล้ว เพราะเรากินน้อยมาจนร่างกายชิน ทำให้ต้องทำใจ ปล่อยไหล
นี่เป็นวงจรของคนที่ลดความอ้วนไม่สำเร็จหลายคน ซึ่งจุดที่สำคัญที่สุดที่ผมอยากให้สังเกตุ คือข้อ 8-9 ซึ่งเป็นสภาวะของจิตใจ ครับ เนื่องจากยิ่งกินน้อย ยิ่งรู้สึกขาด ไม่เติมเต็ม ทำให้ยิ่งต้องหาอะไรทดแทน นี่แหละอันตรายที่สุด
แล้วทำยังไง?
ถ้าให้ตอบแบบกำปั้นทุบดิน แบบตรงๆเลย จะตอบว่า “อย่าใจร้อนรีบลด อย่าไปคิดว่าจะต้องลดให้ได้ XX kg ภายใน XX สัปดาห์ เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ละคนมีความพร้อม และอุปสรรค์คนละอย่าง ทำให้การใช้พลังงานไม่เหมือนกัน ดังนั้นถ้าอยากลดไขมันได้และกินได้แบบคนปกติ อย่างยั่งยืน อันดับแรกต้องใจเย็น”
4 Steps เพื่อให้กินได้เยอะขึ้น
- ต้องรู้ก่อนว่าเราควรได้รับอาหารประมาณไหนเท่าไหร่ถึงไม่อ้วน และเท่าไหร่ถึงผอมลง ตรงนี้ไม่ยาก ไม่ต้องนับแคลก็ได้ แค่จดๆลงไปว่าวันๆกินอะไร ทำอะไร แล้วดูผล ว่าเกิดอะไรขึ้น (แต่ถ้ามีการคำนวน นับแคล จะทำให้ผลตรงนี้เก็บสถิติได้เป็นระบบมากขึ้น ทำให้ผลลัพธ์สามารถถูกคาดเดาได้ง่ายขึ้นครับ เพราะเป็นวิทยาศาสตร์มากกว่าแค่การจดๆเดาๆ)
- คนที่กินน้อยมาก่อน ต้องมาแก้ปัญหาตรงนี้ก่อน ด้วยการค่อยๆกินให้มากขึ้น (น้อยในที่นี้ คือผู้ชาย กินน้อยกว่า 1800-2000 และผู้หญิงกินน้อยกว่า 1200 ผมถือว่าน้อยมาก เพราะกินอาหารตามสั่งแค่สองมื้อก็เกินแล้ว) ซึ่งช่วงที่แก้ ต้องทำใจว่าเราอาจจะไม่ผอมลง (คนที่ไม่มีปัญหากินน้อยมาก่อน ก็ไม่ต้องแก้ตรงนี้) ขั้นตอนนี้อาจจะใช้เวลา 3-6 เดือนเลยทีเดียว สำหรับคนที่เคย “อด” อาหารมาก่อน
- เพิ่มความฟิตให้ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น ด้วยการออกกำลังกายแบบ weight training / body weight แล้วแต่สะดวก พอกล้ามเนื้อเพิ่ม ก็กินได้เยอะขึ้น
- เพิ่มความฟิต ความอึด ให้ร่างกายใช้ไขมันได้ดีขึ้น ด้วยการออกำลังกายแบบ Cardio หรือการทำกิจกรรมต่อเนื่อง เช่นวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือสำหรับคนที่น้ำหนักตัวเยอะมากๆเจ็บข้อต่อ อาจจะว่ายน้ำหรือใช้ cardio machine ต่างๆได้
ถ้าใครอยากรู้ว่า ระยะเวลา 60-90 เดือนของคนที่ลดไขมัน แบบถูกวิธิ ต้องผ่านอะไรบ้าง ดูรูปนี้

ส่วน 60-90 วัน ของคนที่ลดไขมันผิดวิธี ดูรูปนี้
