หลาย ๆ คนที่ออกกำลังกาย ทั้ง มือใหม่ มือเก่า มือสอง มือสาม ต่างน่าจะเคยได้ยิน ได้เห็น หรือบางคนได้มีโอกาสทดลองใช้สิ่งที่เรียกว่า “ ตาราง ” หรือ “ โปรแกรม ”
การออกกำลังกาย ต่าง ๆ ตามที่จะหาได้จากใน INTERNET หรือ SOCIAL MEDIA ต่าง ๆ กันมาบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจ วันนี้เลยอยากจะพูดให้ฟังว่าระหว่างการมีโปรแกรมส่วนตัว กับการใช้โปรแกรมสำเร็จรูป มันมีความแตกต่างกันอย่างไร
มาเริ่มกันที่โปรแกรมสำเร็จรูปกันก่อนครับ

ข้อเสีย
One size doesn’t fit all ครับ คือไม่เหมาะสมต่อข้อจำกัดของแต่ละคน อย่างเช่น เป็นสาว อยากหุ่นดี ลดไขมัน แต่มีอาการเกี่ยวกับการบาดเจ็บที่ข้อต่อเข่า (ประเภทเดินนาน ๆ แล้วปวดเข่า) แล้วก็เหนื่อยง่ายมาก (อารมณ์ประมาณแบบว่า เดินขึ้นบันไดรถไฟฟ้า เหนื่อยเท่าเดินขึ้นภูกระดึง!!!) แต่ไปเอาตารางของคนที่ฟิตแล้วระดับนึงมาใช้ ประเภท เล่นขาด้วยท่า Squat ต่อด้วย Leg Lunge แล้วปิดท้ายด้วยการคาร์ดิโออย่างวิ่ง เป็นต้น
สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ คุณจะบาดเจ็บจากการใช้กล้ามเนื้อมากเกินไปในวันรุ่งขึ้น (ซึ่งไม่ใช่แค่อาการ DOMs ที่จะเจ็บไปแค่วันสองวันเสียทีเดียว บางรายเจ็บเป็นอาทิตย์!!!)
และวันถัด ๆ ไป หลาย ๆ คนเจ็บแบบขยับทีน้ำตาแทบไหล มันเลยจะพาลทำให้ไม่อยากออกกำลังกายแล้ว เพราะมันเจ็บเกินใจจะอดทนจริง ๆ

หรืออีกกรณีนึง คือเรายังไม่มีความแข็งแรงทางด้าน คาร์ดิโอ มากนัก แต่ต้องทำตามตาราง บางทีเราอาจจะหมดแรง หน้ามืด หรือหกล้มระหว่างที่เราคาร์ดิโอทำให้เราบาดเจ็บได้เช่นกันครับ ทั้งสองเหตุผลนี้เป็นสาเหตุหนึ่งในการทำให้คนส่วนใหญ่เลิกออกกำลังกาย (ก็มันทำแล้วเจ็บ เหนื่อยเกินไปอ่ะ ไม่ทำดีกว่า จบ)
ข้อดี
การใช้โปรแกรมสำเร็จรูปนั้นคือมันสะดวกครับ หาดูได้ทั่วไปตามเว็บ เปิดเพจออกกำลังกายก็สามารถเจอได้เลย
_____________________________________________________________________________________
โปรแกรมส่วนตัว
เป็นโปรแกรมที่ต้องปรึกษากับเทรนเนอร์ มีการสัมภาษณ์ถึงเป้าหมายในการออกกำลังกาย ยกตัวอย่างเช่น มีความต้องการในการลดไขมันเฉพาะส่วน ลดน้ำหนัก ต้องการโปรแกรมฟิตหุ่น หรือเพิ่มกล้ามเนื้อ และนอกจากนี้ยังมีการสัมภาษณ์ถึงพฤติกรรมของนักเรียน วิถีชีวิต ความชอบ – ไม่ชอบต่าง ๆ
อาการบาดเจ็บ โรคประจำตัว และอื่น ๆ อีกมากมาย กว่าจะออกเป็นตารางของแต่ละคนได้ เพราะฉะนั้นโปรแกรมส่วนจึงเป็นโปรแกรมที่ออกแบบท่าออกกำลังกายที่เหมาะสมกับละบุคคล และตรงตามเป้าหมาย

ซึ่งจะเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ การใช้โปรแกรมสำเร็จรูปก็คงจะเหมือนเสื้อน่ะครับ หากเราต้องการเสื้อเชิ้ตซักตัว เราก็อาจจะเดินไปซื้อตามร้านต่าง ๆ ลองให้มันดูว่าพอเหมาะพอดีกับเราแล้วก็ซื้อเลย แต่หากเป็นโปรแกรมส่วนตัวมันก็จะเหมือนเสื้อสั่งตัดครับ เราต้องไปหาช่าง ไปวัด ไปลองผ้า แล้วช่างก็จะพิถีพิถันตัดเสื้อของเราออกมาให้พอดีกับตัวเราจริง ๆ ครับ
เพราะอย่างที่บอกครับเราสัมภาษณ์นักเรียนมาแล้ว ว่าเป้าหมายคืออะไร มีความชอบแบบไหน มีอาการบาดเจ็บอะไรบ้าง
ฉะนั้น การออกกำลังกาย โดยมีเทรนเนอร์ดูแลก็จะสามารถลดความเสี่ยง รวมถึงมั่นใจได้ว่าเราจะไปถึงเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง
ไม่ว่าจะด้านการออกกำลังกาย หรือด้านโภชนาการนะครับ
เพราะเทรนเนอร์จะต้องเอาข้อมูลของเรามาวิเคราะห์แล้วออกเป็นตารางให้เราโดยแบ่งเป็นระยะ ๆ ครับ ( ก็คือ ระยะใกล้ ระยะกลาง และระยะยาว) อีกทั้งระหว่างทางหากเรามีปัญหาใด ๆ ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำอยู่เป็นระยะครับ เทรนเนอร์ให้คำแนะนำด้านการออกกำลังกาย และโภชนาการที่เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน
_________________________________________
ข้อแตกต่าง
ระหว่าง โปรแกรมสำเร็จรูป กับ โปรแกรมส่วนตัว
คือ วัตถุประสงค์ในการนำไปใช้ครับ
_________________________________________
ยกตัวอย่าง : สำหรับเป้าหมายอยากลดไขมัน อยากลีน แต่เนื่องจากความไม่เข้าใจในเรื่องของระบบพลังงานของร่างกาย รวมไปถึงการออกกำลังกายตามเป้าหมายต่าง ๆ
แต่เลือกใช้ตารางของ Bodybuilder
(ซึ่งเป้าหมายเขาคือการสร้างกล้ามให้ใหญ่ขึ้น เพราะเขาต้องใช้กล้ามในการหากิน ไม่ว่าจะถ่ายแบบหรือประกวดเพาะกาย)
กลายเป็นว่าต้องไปยิมทุกวันเลย 5 วันต่อสัปดาห์ ต้องไปเล่นอกวันจันทร์ (จะเห็นได้ว่าทุกยิมเลยครับ เครื่องเล่นอกแน่นเอี้ยด ในขณะที่ Rack Squat ว่างพอจะไปนอนได้เลย) ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็งานยุ่งจะแย่ ความเครียดจากการทำงานบริษัท จากเจ้านาย ลูกน้อง ลูกค้าก็มากพอแล้ว ยังต้องมาเครียดอีกว่าเครื่องออกกำลังกายจะพอใช้ไหม จะเล่นได้กี่ท่า จะพักนานไปไหม กลายเป็นว่านอยด์เลยทีนี้ แล้วก็จะพาลไม่อยากออกกำลังกายไปอีก
หรืออย่างกรณี โภชนาการ เห็นตามหนังสือนิตยสาร โอ้โห!!!กินดีจริง ๆ ทั้ง คีนัว ทั้งเบอร์รี่ต่าง ๆ ซูเปอร์ฟู้ด แต่พอในชีวิตจริง มีแต่กะเพราเนื้อ ขาหมู ไก่ย่าง ทำไงละทีนี้ ถ้าเราใช้โปรแกรมสำเร็จรูปมันอาจจะยากต่อการใช้ชีวิต ต้องไปตระเวนตามซื้อหาซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับหลาย ๆ คนครับ การใช้โปรแกรมส่วนตัวก็จะคำนึงถึงตรงนี้แล้วก็ออกแบบให้มันสอดคล้องกับวิถีชีวิตของแต่ละคนครับ
รู้อย่างนี้แล้ว หวังว่าทุกคนน่าจะพอเข้าใจแนวคิดของโปรแกรมส่วนตัวแล้วนะครับ
สามารถเลือกโปรแกรมออกกำลังกายในแบบที่คุณต้องการได้แล้วที่ https://www.fitshop-th.com